Promo code
NewWeb
Shop Now

20 December 2024

ทำไมโรงงานอุตสาหกรรม ถึงควรให้ความสำคัญกับระบบ Lock out Tag out

ทำไมโรงงานอุตสาหกรรม ถึงควรให้ความสำคัญกับระบบ Lock out Tag out

อุบัติเหตุในโรงงานสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ โดยเฉพาะในระหว่างการปฏิบัติงาน เนื่องจาก พนักงานส่วนใหญ่จำเป็นต้องทำงานกับเครื่องจักร วัตถุดิบ หรือสารที่เป็นอันตรายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นในโรงงาน อาจก่อให้เกิดการบาดเจ็บ หรือการเสียชีวิตได้ในที่สุด


ดังนั้น การรักษาความปลอดภัยในโรงงานอุตสาหกรรม จึงกลายเป็นส่วนสำคัญที่นายจ้างต้องให้ความใส่ใจ เพื่อป้องกันความเสียหายต่อร่างกาย ทรัพย์สิน เครื่องจักร หรืออุปกรณ์การทำงานต่าง ๆ ด้วยการตรวจสอบความปลอดภัยภายในโรงงานอยู่เป็นประจำ หมั่นจัดอบรมเรื่องความปลอดภัยให้แก่พนักงาน และเน้นย้ำให้พนักงานปฏิบัติตามขั้นตอนความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด 


ในบทความนี้ Naradee ชวนผู้ประกอบการทุกท่านมาดูกันว่า มาตรฐานกุญแจนิรภัย Lock out Tag Out สำคัญต่อโรงงานอุตสาหกรรมอย่างไรบ้าง พร้อมกับแนะนำหลักการสร้างความปลอดภัยในโรงงาน เพื่อดูแลโรงงานให้ปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุอันตราย หากพร้อมแล้ว เราไปดูกัน 

ความปลอดภัยภายในโรงงาน สำคัญต่อคุณภาพสินค้าอย่างไร

การปฏิบัติงานกับเครื่องจักร ภายในโรงงานอุตสาหกรรม ผู้ประกอบการ และพนักงานต้องมั่นใจว่า อุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่มีโอกาสที่จะกลับมาทำงานได้โดยไม่ตั้งใจ หรือมีกระแสไฟฟ้าซ่อนอยู่ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดอันตรายต่อผู้ปฏิบัติงาน ดังนั้น ผู้ประกอบการควรจัดระบบความปลอดภัยให้รัดกุม เพื่อรักษาชีวิตของพนักงาน และดูแลสินค้าให้คงคุณภาพดีอยู่เสมอ


อีกหนึ่งสาเหตุที่ผู้ประกอบการ จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับระบบรักษาความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด มาจากพรบ.ความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ.2554 ที่บัญญัติไว้ว่า “เจ้าของโรงงาน หรือนายจ้างต้องรับผิดชอบในเรื่องของความปลอดภัยด้านการปฏิบัติงาน โดยต้องจัดหาอุปกรณ์ป้องกันภัยทุกประเภทให้ครบถ้วน และพอเพียง”


ซึ่งหนึ่งในขั้นตอนที่ช่วยยกระดับความปลอดภัยให้กับโรงงาน คือ การเลือกใช้อุปกรณ์ด้านความปลอดภัย Lock out Tag out หรือเรียกสั้น ๆ ว่า LOTO เป็นอุปกรณ์ด้านความปลอดภัย ที่ใช้ป้องกันไม่ให้มีการเปิดพลังงาน โดยไม่ตั้งใจขณะที่มีการปฏิบัติงานอยู่ พร้อมกับแสดงสถานะให้ผู้ที่เกี่ยวข้องรับรู้ ในขณะที่ทำงานจนจบการทำงานอย่างปลอดภัย ซึ่งมีประโยชน์ทั้งทางตรง และทางอ้อมกับผู้ปฏิบัติงาน ดังนี้

  • ช่วยลดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในที่ทำงาน

หากโรงงานของคุณมีการจัดระบบความปลอดภัย และใช้อุปกรณ์เซฟตี้ Lock out Tag out จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง ภายในโรงงานอุตสาหกรรม (Major Hazard) เช่น การเกิดไฟไหม้ สารเคมีรั่วไหล เครื่องจักรขัดข้อง และเหตุโรงงานระเบิด เป็นต้น ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเหตุที่อาจนำไปสู่วินาศภัย (Catastrophic) 


โดยอุปกรณ์ LOTO จะทำการล็อคไม่ให้ใครเข้ามาเปิดวาล์วปล่อยพลังงาน ในระหว่างซ่อมบำรุง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายต่อผู้ปฏิบัติงาน  ทำให้มั่นใจได้ว่าเครื่องจักร หรือแหล่งจ่ายกระแสไฟฟ้า จะไม่มีโอกาสกลับมาทำงานได้ โดยไม่ได้ตั้งใจ หรือมีกระแสไฟฟ้าค้างอยู่

  • เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

การให้ความสำคัญเกี่ยวกับความปลอดภัยในโรงงาน ถือเป็นหนึ่งในจุดที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เพราะหากพนักงานรับรู้ว่าสถานที่ที่ปฏิบัติงานอยู่ มีระบบความปลอดภัยที่แน่นหนา ย่อมช่วยให้พนักงานรู้สึกสบายใจ และทำงานได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องไม่กังวลว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว


ซึ่งการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ล้วนมีส่วนช่วยให้สินค้าที่ถูกผลิตออกมามีคุณภาพดีเหมือนกันทุกชิ้น ส่งผลให้สินค้าที่ถูกส่งออกไป ตรงตามมาตรฐาน และตรงตามการควบคุมคุณภาพ (Quality Control หรือ QC) อย่างแน่นอน

  • สร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงาน

นอกเหนือจากการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานแล้ว การให้ความสำคัญกับระบบ Lock out Tag out ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงานอีกด้วย เพราะภาพรวมของโรงงานอุตสาหกรรมดูปลอดภัย และน่าปฏิบัติงานมากกว่าโรงงาน ที่ไม่มีมาตรการความปลอดภัยในการปฏิบัติงานที่เหมาะสม

หลักการสร้างความปลอดภัย ในโรงงานอุตสาหกรรม

เมื่อได้เรียนรู้ถึงความสำคัญของระบบกุญแจนิรภัย Lock out Tag Out ภายในโรงงานกันไปแล้ว คราวนี้ลองมาดูกันว่าหลักการสร้างความปลอดภัยที่ดี ต้องประกอบไปด้วยอะไรบ้าง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในโรงงาน และลดความเสี่ยงของอันตรายที่เกิดจากความผิดปกติของการทำงาน จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง มาดูกัน

  • ประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

สิ่งแรกที่ควรคำนึงก่อนจัดการระบบความปลอดภัย คือ ประเมินความเสี่ยงตามจุดต่าง ๆ ในโรงงาน ด้วยตรวจสอบการทำงานเครื่องจักรทุกเครื่องอย่างละเอียด และสำรวจโครงสร้างอาคารให้เรียบร้อย เมื่อพบเครื่องจักรที่ชำรุด หรือบริเวณที่อาจเกิดอันตราย ควรรีบติดต่อช่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อการบำรุงรักษา และซ่อมแซมอุปกรณ์ในทันที 


ทั้งนี้ หากตรวจพบว่าระบบความปลอดภัยในโรงงาน ยังไม่แน่นหนาพอ แนะนำปรับปรุงโรงงานอย่างเร่งด่วน พร้อมกับติดตั้งอุปกรณ์เซฟตี้ให้เรียบร้อย เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยให้แน่นหนายิ่งขึ้น และเพิ่มความมั่นใจว่า หากเกิดการปลดปล่อยพลังงานไฟฟ้าอย่างไม่คาดคิด อุปกรณ์ที่นำมาติดตั้ง จะช่วยตัดแยกแหล่งพลังงานที่เป็นอันตรายได้ในทันที

  • กำหนดให้พนักงานปฏิบัติตามขั้นตอน ความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด

พนักงานส่วนใหญ่จำเป็นต้องอยู่ใกล้ชิดกับอุปกรณ์ หรือเครื่องจักรอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น การนำระบบ Lock out Tag out มาใช้ภายในโรงงาน ช่วยยกระดับความปลอดภัยในโรงงาน ทั้งยังลดโอกาสที่จะได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุได้อีกด้วย


ทั้งนี้ ผู้ประกอบการควรเลือกอุปกรณ์เซฟตี้ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน OSHA (Occupational Safety and Health Administration: OSHA) ของสำนักงานบริหารความปลอดภัย และอาชีวอนามัยแห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา รวมถึงกำชับให้พนักงานทุกคน ปฏิบัติตามมาตรฐานระบบ Lockout Tagout เพื่อป้องกันไม่ให้มีการเปิดพลังงานโดยไม่ตั้งใจ หรือเกิดกระแสไฟฟ้ารั่วไหล

  • ตรวจสอบกลไกการป้องกันของเครื่องจักร

หนึ่งในจุดที่ผู้ประกอบการไม่ควรมองข้าม คือ การตรวจสอบกลไกการป้องกันของเครื่องจักร และเช็กประสิทธิภาพการใช้งานอยู่เสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีเครื่องจักรชำรุด ซึ่งการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องจักรอย่างเป็นประจำ จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอันตราย หรือเกิดการบาดเจ็บในสถานที่ทำงานได้เป็นอย่างดี

  • ห้ามวางของกีดขวางทางออกฉุกเฉิน

ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุขึ้น ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีอุปกรณ์ หรือเครื่องจักรชิ้นไหนกีดขวางทางออกฉุกเฉิน เพราะสภาพแวดล้อมที่รกเกะกะ อาจทำให้พนักงาน หรือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย มีพื้นที่ไม่เพียงพอในการใช้เครื่องมือป้องกัน และจัดการอุบัติเหตุฉุกเฉินได้ ทั้งยังหลบหนีจากอาคารได้ช้า และเกิดอาการบาดเจ็บมากกว่าที่ควรจะเป็น

  • ใช้อุปกรณ์ให้ถูกต้อง

 แม้ว่าในโรงงานอุตสาหกรรมจะมีอุปกรณ์เซฟตี้ และเครื่องมืออุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างครบครัน แต่หากเลือกใช้อุปกรณ์ที่ไม่ผ่านการรับรองมาตรฐานที่เหมาะสม หรือสั่งซื้ออุปกรณ์รักษาความปลอดภัยในยี่ห้อที่ไม่มีคุณภาพ อาจเกิดการชำรุด และมีระยะการใช้งานที่ต่ำกว่าปกติ 


อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์รักษาความปลอดภัย ก่อนติดตั้งในโรงงาน 

  • จัดอบรมเรื่องความปลอดภัยให้แก่พนักงาน

เนื่องด้วย การรักษาความปลอดภัยในโรงงานอุตสาหกรรม มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น ผู้ประกอบการจำเป็นต้องจัดการฝึกอบรมเกี่ยวกับการทำงานของระบบ Lock out Tag out ให้แก่พนักงานอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าบุคลากรจะมีความรู้ เกี่ยวกับการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุในโรงงาน


ซึ่งการที่พนักงานได้รับการฝึกอบรม ให้ปฏิบัติตามระเบียบการด้านความปลอดภัยเป็นประจำ จะช่วยลดความเสี่ยงของอุบัติเหตุ และการบาดเจ็บในสถานที่ทำงานได้ ทั้งยังช่วยกันสอดส่อง และเป็นหูเป็นตาเมื่อพบความไม่ชอบมาพากลในโรงงานได้อีกด้วย

แนะนำ อุปกรณ์เซฟตี้จาก Naradee ช่วยยกระดับความปลอดภัยในโรงงาน

หนึ่งในสิ่งสำคัญที่ช่วยปกป้องชีวิตของพนักงานให้ปลอดภัย จากเหตุอันตรายที่เกิดขึ้นในโรงงาน คงจะหนีไม่พ้นอุปกรณ์เซฟตี้ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันอันตราย และลดอาการบาดเจ็บจากหนักให้เป็นเบา ทั้งยังช่วยการันตีได้ว่า โรงงานของคุณปฏิบัติตามกฎหมาย และมาตรฐานด้านความปลอดภัยในที่ทำงานอย่างเคร่งครัด


สำหรับเจ้าของโรงงานที่อยากอัปเกรดอุปกรณ์เซฟตี้ให้ทันสมัย และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เราขอแนะนำอุปกรณ์เซฟตี้ Lockout Tagout Solutions by Master Lock (OSHA Compliant) ตอบโจทย์ทุกอุตสาหกรรม และครบครันทุกขั้นตอนสำคัญในการป้องกันอันตราย ซึ่งอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยที่ Naradee จะมาแนะนำให้กับผู้ประกอบการ มีดังนี้

  • กุญแจคล้องเซฟตี้ รุ่น Master Lock 406

กุญแจคล้องเซฟตี้ รุ่น Master Lock 406 ตัวฐานทำจากวัสดุผสม Zenex™เป็นแม่กุญแจคล้องที่ไม่นำไฟฟ้า ไม่เกิดประกายไฟ ทั้งยังทนต่อการกัดกร่อน ทนต่อสารเคมี และทนต่ออุณหภูมิตั้งแต่ -40 °C ถึง +90 °C จึงเหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพบรรยากาศที่ติดไฟ หรือระเบิดได้


นอกจากนี้ แม่กุญแจคล้องเซฟตี้รุ่นดังกล่าว สามารถแกะสลักด้านข้าง และด้านหน้าของตัวฐานด้วยเลเซอร์ได้ เพื่อการระบุตัวตนแบบถาวร มั่นใจได้ว่าปลอดภัยสำหรับการใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรม ด้วยป้ายข้อมูลติดแม่กุญแจคล้องอย่างชัดเจนว่า “Danger (อันตราย)” และ “Property of (ทรัพย์สินของ)”


 


 

  • อุปกรณ์ล็อคเซอร์กิตเบรกเกอร์ รุ่น Master Lock 493B

สำหรับผู้ที่ต้องการอุปกรณ์เซฟตี้ ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยทางไฟฟ้า ขอแนะนำอุปกรณ์ล็อคเซอร์กิตเบรกเกอร์ รุ่น Master Lock 493B ตัวฐานทำจากเหล็กกล้าชุบแข็ง ใช้งานง่ายเพียงแค่ติดตั้งเข้ากับก้านโยกของเบรกเกอร์ เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่อันตราย รวมถึงสภาพบรรยากาศที่ติดไฟ หรือระเบิดได้


 


 

  • อุปกรณ์ล็อควาล์ว รุ่น Master Lock 482

อุปกรณ์ล็อควาล์ว รุ่น Master Lock 482 ตอบโจทย์การใช้งานในพื้นที่อันตรายอย่างยิ่ง เนื่องด้วย ตัวฐานทำจากวัสดุผสม Zenex™ทำให้ทนทานต่อสารเคมี และสภาวะแวดล้อมที่รุนแรง ในอุณหภูมิตั้งแต่ -57 °C ถึง +177 °C 


นอกจากนี้ ยังสามารถถอดส่วนตรงกลางออกได้ เพื่อปรับให้เข้ากับก้านของวาล์วน้ำที่อาจยื่นออกมา และรองรับกุญแจคล้องได้สูงสุด 4 ตัว โดยตัวล็อควาล์วใช้วิธีการหมุนปิด ช่วยให้ติดตั้งได้ง่าย แม้ในพื้นที่คับแคบ


 


 

  • ป้ายเตือน รุ่น Master Lock 497A

ป้ายเตือน รุ่น Master Lock 497A ทำจากโพลีเอสเตอร์ลามิเนต ที่ทนทานต่อน้ำมัน จาระบี และสภาวะอุณหภูมิสุดขั้วได้ดี จึงปลอดภัยสำหรับการใช้งานในพื้นที่อันตราย บนป้ายมีข้อความ “ห้ามใช้งาน” ให้เห็นอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้พนักงานเข้าถึงอุปกรณ์อื่น ๆ โดยพลการ


 


 

  • สถานีจัดเก็บอุปกรณ์ รุ่น Master Lock 1484B

ในส่วนของสถานีจัดเก็บอุปกรณ์ชนิดติดผนัง รุ่น Master Lock 1484B ตัววัสดุทำจากโพลีคาร์บอเนต ช่วยเพิ่มความสามารถในการทนความร้อนได้ถึง 2 เท่า ทั้งยังทนทานมากกว่าสถานีจัดเก็บทั่วไปถึง 4 เท่า และสามารถเก็บกุญแจได้สูงสุด 20 ตัว โดยสถานีจัดเก็บอุปกรณ์รุ่นนี้ สามารถใช้กุญแจคล้องแบบรหัส เพื่อล็อคสถานีจัดเก็บแม่กุญแจคล้องได้อีกด้วย


 


 

  • กล่องเก็บอุปกรณ์ รุ่น Master Lock 1457E410KA

Read More

Explore which events are suitable for using LOTO security keys

29 April 2025

Explore which events are suitable for using LOTO security keys
ในชีวิตประจำวัน และในโลกของการทำงาน มีสถานการณ์มากมายที่อาจเสี่ยงต่อความปลอดภัย โดยเฉพาะในสถานที่ที่มีเครื่องจักรอุตสาหกรรม วัสดุอันตราย หรือพื้นที่ที่ต้องการการควบคุมอย่างเข้มงวด ซึ่งการใช้กุญแจนิรภัย LOTO เป็นหนึ่งในมาตรการสำคัญที่จะช่วยป้องกันอุบัติเหตุ และเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ได้  ในบทความนี้ Naradee จะพาคุณไปสำรวจเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เหมาะกับการใช้งานกุญแจนิรภัย LOTO พร้อมแชร์กรณีศึกษาที่แสดงให้เห็นว่ากุญแจนิรภัย LOTOจะสามารถช่วยป้องกันเหตุไม่คาดฝันได้อย่างไร ถ้าพร้อมแล้ว เราไปเริ่มกันเลย !กุญแจนิรภัย LOTO สำคัญแค่ไหน ? กรณีศึกษาที่ช่วยป้องกันเหตุไม่คาดฝันกุญแจนิรภัย LOTO มีบทบาทสำคัญในหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่โรงงานผลิต การก่อสร้าง ไปจนถึงการจัดเก็บสารเคมี และงานซ่อมแซมพื้นที่สาธารณะ โดยการใช้กุญแจนิรภัย LOTO อย่างถูกต้อง จะช่วยป้องกันอุบัติเหตุร้ายแรง ลดความเสี่ยงจากการเข้าถึงอุปกรณ์อันตราย และเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ปฏิบัติงานได้  โดยต่อไปนี้ คือ ตัวอย่างกรณีศึกษา ที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของกุญแจนิรภัย ได้แก่การทำงานในโรงอุตสาหกรรมในโรงงานอุตสาหกรรมที่มีเครื่องจักรทำงานต่อเนื่อง การใช้กุญแจนิรภัยมีความสำคัญมาก เนื่องจาก ช่วยป้องกันไม่ให้เครื่องจักรทำงาน ในขณะที่มีการบำรุงรักษา หรือซ่อมแซม นอกจากนี้ หากมีการใช้ระบบ Lockout Tagout (LOTO) ก็จะยิ่งช่วยให้แน่ใจว่าไม่มีพนักงานคนไหน สามารถเปิดใช้งานเครื่องจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตได้ สำหรับใครที่ยังไม่รู้จักกับระบบ Lockout Tagout ที่พูดถึง ถ้าอธิบายง่าย ๆ LOTO เป็นมาตรการความปลอดภัย ที่ใช้ในการป้องกันอุบัติเหตุจากเครื่องจักร หรือระบบไฟฟ้าที่อาจเปิดใช้งานโดยไม่ได้ตั้งใจ ในระหว่างการซ่อมบำรุง หรือบำรุงรักษา โดยองค์ประกอบหลักของระบบ LOTO จะแบ่งเป็น 2 อย่าง ได้แก่ Lockout: การใช้อุปกรณ์ล็อค เช่น กุญแจนิรภัย เพื่อล็อคสวิตช์ หรือแหล่งพลังงานของเครื่องจักรไม่ให้เปิดใช้งานTagout: การติดป้ายเตือน ที่แสดงข้อความว่ากำลังดำเนินการซ่อมบำรุงอยู่ และห้ามเปิดใช้งานอุปกรณ์นั้น ๆ ตัวอย่างกรณีศึกษา ของการใช้กุญแจนิรภัย LOTO ในโรงอุตสาหกรรม เช่น โรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์: การใช้กุญแจนิรภัย LOTO ล็อคสวิตช์เครื่องจักรระหว่างการซ่อมบำรุง พร้อมมีการติดป้ายแจ้งเตือน (Tagout) ร่วมด้วย จะช่วยให้แน่ใจว่าไม่มีการเปิดเครื่องโดยไม่ตั้งใจ นอกจากนี้ ยังช่วยให้พนักงานที่ทำหน้าที่ซ่อมแซมมีความปลอดภัยสูงสุดอีกด้วยโรงงานแปรรูปอาหาร: การใช้กุญแจนิรภัย LOTO จะช่วยป้องกันการเปิดใช้งานเครื่องจักร เช่นเครื่องตัด และเครื่องบดอาหาร ขณะมีการทำความสะอาดด้านใน การก่อสร้างงานด้านก่อสร้าง เป็นงานที่มีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะเมื่อต้องทำงานกับเครื่องจักรหนัก ระบบไฟฟ้า ระบบแก๊ส หรือโครงสร้างที่ยังไม่สมบูรณ์ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อคนงานได้  ดังนั้น การใช้ระบบ LOTO จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทำให้มั่นใจว่า ไม่มีใครสามารถเปิดใช้งานอุปกรณ์ หรือปลดปล่อยพลังงานอันตรายได้ในระหว่างการบำรุงรักษา และซ่อมแซม  อีกทั้ง ในโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ ที่ต้องมีการจัดการงานหลายทีมร่วมกัน การใช้อุปกรณ์ LOTO จะช่วยกำหนดความปลอดภัยในการแบ่งงานได้ เช่น ทีมไฟฟ้าต้องปิดวงจรก่อนที่ทีมติดตั้งท่อจะทำงาน หรือทีมซ่อมบำรุงต้องแน่ใจว่าเครื่องจักรไม่ทำงาน ก่อนที่ทีมตรวจสอบจะเข้าไปภายใน เป็นต้น ตัวอย่างกรณีศึกษา ในงานการก่อสร้าง เช่น วิศวกรไฟฟ้าใช้: ใช้กุญแจนิรภัยล็อคสวิตช์ไฟ พร้อมติด Tag เตือนของระบบ LOTO เพื่อป้องกันการเปิดใช้งานโดยไม่ตั้งใจทีมช่างก่อสร้าง: ใช้กุญแจนิรภัยมาล็อคเครน และติดป้ายเตือน เพื่อป้องกันการใช้งาน โดยไม่ได้รับอนุญาตระหว่างการเปลี่ยนชิ้นส่วนสำคัญ การจัดเก็บสารเคมีสารเคมีอันตราย จำเป็นต้องมีการควบคุมการเข้าถึงอย่างเข้มงวด เพื่อลดความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ และปัญหาสิ่งแวดล้อม ซึ่งการใช้กุญแจนิรภัย LOTO จะช่วยป้องกันการเข้าถึงสารเคมีโดยไม่ได้รับอนุญาต และลดโอกาสในการรั่วไหลได้ ยกตัวอย่างเช่น ห้องเก็บสารเคมี: ในระหว่างการทำความสะอาดถังเก็บสารเคมี หากใช้กุญแจนิรภัย LOTO ล็อกวาล์วถังเก็บสารเคมี พร้อมติดป้ายเตือน (Tagout) จะช่วยป้องกันการเปิดโดยไม่ได้ตั้งใจได้คลังสินค้าเคมี: ใช้กุญแจนิรภัย LOTO ล็อกเบรกเกอร์ที่ควบคุมปั๊มจ่ายสารเคมี พร้อมติดป้ายเตือน (Tagout) ระบุชัดเจนว่า “อยู่ระหว่างซ่อมบำรุง ห้ามเปิดใช้งาน” เพื่อป้องกันการเปิดโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งอาจทำให้สารเคมีรั่วไหลออกมาในระหว่างที่มีการซ่อมบำรุงได้ การซ่อมแซมบนพื้นที่สาธารณะในพื้นที่สาธารณะ เช่น ถนน ทางเดิน หรืออาคารของรัฐ มักต้องการการซ่อมแซมเป็นระยะ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น การใช้กุญแจนิรภัยจะช่วยให้เจ้าหน้าที่ สามารถควบคุมพื้นที่ปิดซ่อมแซมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และป้องกันไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าไปในพื้นที่อันตรายนั้น ๆ ตัวอย่างเช่น เจ้าหน้าที่เทศบาล: ใช้กุญแจนิรภัย LOTO ล็อคตู้ควบคุมไฟ เพื่อป้องกันไฟดูด หรือการบาดเจ็บจากกระแสไฟฟ้า ในระหว่างการซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้าใต้ดินบริเวณทางเท้าทีมซ่อมบำรุงทางหลวง: สามารถล็อคเครื่องจักรหนัก เพื่อป้องกันการเปิดใช้งานโดยไม่ได้รับอนุญาตได้ สำหรับใครที่กำลังมองหากุญแจนิรภัย และอุปกรณ์ LOTO ที่คุ้มค่าทั้งราคาและคุณภาพ Naradee ขอแนะนำแบรนด์ Master Lock ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบล็อคมาตรฐานระดับโลก ที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานความปลอดภัยของ OSHA ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น อุตสาหกรรม การก่อสร้าง หรือการจัดเก็บสารเคมี สนใจติดต่อได้ที่ Inbox: Naradee Storeแนะนำ แม่กุญแจนิรภัย 4 รุ่น ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยเมื่อพูดถึงความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน หรือการใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรม การเลือกใช้แม่กุญแจที่มีคุณภาพสูงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงสูง Naradee จึงขอมาแนะนำแม่กุญแจนิรภัย LOTO 4 รุ่นจาก Master Lock ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับระดับสากลด้านความปลอดภัย โดยจะมีอะไรบ้าง มาดูกันMaster Lock 406Master Lock 406 เป็นแม่กุญแจนิรภัย ที่ห่วงกุญแจทำจากวัสดุไนลอนผสม ไม่นำไฟฟ้า ไม่เกิดประกายไฟ ทนทานต่อการกัดกร่อนและความร้อน ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งาน ในสภาพบรรยากาศที่ติดไฟ หรือระเบิดได้Master Lock 410Master Lock 410 เป็นแม่กุญแจนิรภัยที่ได้รับความนิยม ด้วยวัสดุผสม Zenex™ ที่แข็งแรง และทนทานต่ออุณหภูมิตั้งแต่ -57 °C ถึง +177 °Cเหมาะสำหรับงาน Lockout ทั่ว ๆ ไปMaster Lock 410LTMaster Lock 410LT เป็นรุ่นที่คล้ายกับ 410 แต่มีห่วงกุญแจที่ยาวขึ้น เหมาะสำหรับการใช้งานในจุดที่เข้าถึงยาก อีกทั้งฐานกุญแจคล้องยังทนต่อแสงยูวี และทนทานต่อสารเคมี พร้อมป้ายข้อมูลที่รองรับถึง 3 ภาษา ได้แก่ ฝรั่งเศส อังกฤษ และสเปนMaster Lock S31Master Lock S31 เป็นแม่กุญแจที่มีระบบป้องกันการดึงลูกกุญแจออกโดยไม่ล็อคกลับคืน ทนทานต่อการกัดกร่อน UV และสารเคมี เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น สภาพแวดล้อมที่ติดไฟ หรือระเบิดได้ เป็นต้น ทั้งนี้ Master Lock เป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับในด้านความปลอดภัยสูง และแม่กุญแจนิรภัยทั้ง 4 รุ่นนี้เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ต้องการมาตรการป้องกันเป็นพิเศษ  ซึ่งการเลือกใช้แม่กุญแจที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าทรัพย์สิน และบุคลากรของคุณปลอดภัยจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น ทั้งนี้ หากคุณกำลังมองหาแม่กุญแจ หรือตู้เซฟคุณภาพเยี่ยม ขอให้นึกถึง Naradee ผู้จำหน่ายกุญแจนิรภัย Master Lock ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ Line: @naradeeWebsite: Naradee.comProduct Category: Master LockShopee: Naradee StoreLazada: Naradee StoreInbox: Naradee Store
Factory lock standards that entrepreneurs must know

28 April 2025

Factory lock standards that entrepreneurs must know
ความปลอดภัยของโรงงาน เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะภายในโรงงานอุตสาหกรรม เต็มไปด้วยเครื่องจักรมูลค่าสูง อุปกรณ์ที่ก่อให้เกิดอันตรายได้ทุกเมื่อ และผลิตภัณฑ์ที่พร้อมส่งออกถึงมือลูกค้า ซึ่งหากมีการจัดการด้านระบบความปลอดภัยชั้นแรกที่ไม่ดี อาจส่งผลเสียต่อผู้ประกอบการในวงกว้างได้ ดังนั้น เมื่อโรงงานอุตสาหกรรมเลือกใช้กุญแจที่มีคุณภาพ ผลิตจากวัสดุที่รับรองการงัดแงะ ทนทานต่อการกัดกร่อน และทนทานต่อสารเคมี ก็จะช่วยให้ทรัพย์สิน เครื่องจักร วัตถุดิบ และตัวของพนักงานเอง ปลอดภัยจากอุบัติเหตุ หรือเหตุโจรกรรมที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ในบทความนี้ Naradee จะมาแชร์ให้ผู้ประกอบการทุกคนได้รู้ว่า มาตรฐานของแม่กุญแจ ที่ตอบโจทย์กับการใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรม ต้องประกอบไปด้วยอะไรบ้าง พร้อมกับแนะนำประเภทของกุญแจ ที่ทุกโรงงานควรมี เพื่ออัปเกรดความปลอดภัยให้เพิ่มขึ้นอีกระดับ หากพร้อมแล้ว เราไปดูกันสำรวจ ความสำคัญของกุญแจ ตัวช่วยเสริมความปลอดภัยให้กับโรงงานแม่กุญแจ เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยรักษาความปลอดภัยให้กับพนักงาน ทรัพย์สินมีค่า เครื่องจักร และวัตถุดิบการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก็ใช่ว่ากุญแจทุกประเภท จะเหมาะกับการใช้งานทั้งภายในโรงงาน และภายนอกสถานประกอบการ  สำหรับผู้ประกอบการที่ยังไม่แน่ใจ หรือสับสนอยู่ไม่น้อยว่า ความสำคัญของการใช้กุญแจคุณภาพดี และผ่านการรับรองมาตรฐานในระดับสากล คุ้มค่าแก่การลงทุนอย่างไร Naradee ตัวจริงเรื่องอุปกรณ์รักษาความปลอดภัย ได้รวบรวมข้อมูลมาให้แล้ว ดังนี้ป้องกันอุปกรณ์สำคัญสูญหายอย่างที่ทราบกันดีว่า ภายในโรงงานอุตสาหกรรมเต็มไปด้วยทรัพย์สินมีค่ามากมาย หากอุปกรณ์ต่าง ๆ หรือผลผลิตเสียหายไปเพียงหนึ่งชิ้น ก็อาจสร้างความเสียหายในวงกว้างได้ ทั้งในแง่ของความน่าเชื่อถือของฐานผลิตในโรงงาน และมูลค่าทางการเงินที่เสียไปโดยไม่รู้ตัว ดังนั้น การใช้แม่กุญแจที่ผลิตจากวัสดุคุณภาพดี โดยเฉพาะเหล็กกล้า และซิงค์ มาล็อคตามประตูรั้ว หรือห้องปฏิบัติงาน ก็จะช่วยป้องกันการงัดแงะ โดยผู้ไม่ประสงค์ดีได้เต็มประสิทธิภาพ ทั้งยังช่วยให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย สังเกตเห็นได้ทันท่วงที เมื่อมีการพยายามสะเดาะกุญแจระบบการป้องกันสูงการใช้แม่กุญแจที่ผ่านการทดสอบเกี่ยวกับการทุบ ตัด หรืองัดแงะในระดับสากล ทั้งยังมีระบบการเปิดกุญแจที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การใช้รหัสเปิด หรือการใช้ลูกกุญแจไข ช่วยให้ผู้ประกอบการมั่นใจได้ว่า กุญแจที่นำมาใช้งานทั้งภายใน และภายนอกอาคาร รวมถึงรั้วสถานประกอบการ สามารถเสริมความปลอดภัยได้เป็นอย่างดี เพราะกุญแจเหล่านี้ มีกระบวนการผลิตทันสมัย และผ่านการออกแบบกลไกในการทำงาน ทำให้ต้านทานการตัดได้มากกว่ากุญแจที่ไม่ได้มาตรฐาน อีกทั้งกุญแจบางประเภท ยังสามารถสั่งผลิตระบบกุญแจ ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ประกอบการได้ และป้องกันการปั๊มกุญแจ โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรมโดยเฉพาะลดระยะเวลาในการทำงานกุญแจที่ใช้ภายในโรงงานอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ มักเป็นกุญแจระบบมาสเตอร์คีย์ (Master Key System) ซึ่งเป็นระบบล็อคที่อนุญาตให้ใช้กุญแจเดียว เพื่อเปิดล็อคทุกประตู ทำให้ประหยัดเวลาในการเข้าถึงประตูต่าง ๆ ที่ต้องการได้ โดยไม่ต้องหาลูกกุญแจให้เสียเวลา ทำให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วประหยัดงบประมาณในระยะยาวในแต่ละปีผู้ประกอบการ ต้องเสียงบประมาณจำนวนมาก ไปกับการซ่อมบำรุงเครื่องจักร หรือดูแลระบบความปลอดภัยต่าง ๆ ตามระยะเวลาการใช้งาน ดังนั้น หากเลือกกุญแจยี่ห้อที่ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัย และคุณภาพ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี เพราะกุญแจส่วนใหญ่ มีการรับประกันตลอดอายุการใช้งาน หากมีส่วนไหนเสียหาย ก็สามารถติดต่อที่ผู้จัดจำหน่ายได้ในทันทีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น หากเลือกใช้กุญแจที่ไม่มีมาตรฐานเมื่อได้รู้กันไปแล้วว่า จุดเด่นของการใช้แม่กุญแจที่มีคุณภาพดี ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง แต่หากผู้ประกอบการหน้าใหม่ ยังมีความลังเลอยู่ว่าควรลงทุนกับการซื้อกุญแจดีไหม เราขอพาคุณไปสำรวจกันว่า หากนำกุญแจที่ไม่มีมาตรฐานมาใช้งาน จะต้องเผชิญกับความเสี่ยงอะไรบ้างเกิดการกัดกร่อนได้ง่ายเมื่อดูผิวเผินกุญแจที่ไม่ได้มาตรฐาน ก็ผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพเหมือนกัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว วัสดุที่ใช้ผลิตทั้งห่วงกุญแจ และตัวกุญแจทนต่อการกัดกร่อนได้น้อยกว่า ทำให้เกิดสนิมได้ง่าย เมื่อเผชิญกับแสงแดด ลมฝน หรือสารเคมี ส่งผลให้ตัวแม่กุญแจพัง หรือฝืดจนไขไม่ออกในที่สุดเพิ่มความเสี่ยงในการถูกโจรกรรมแม้ว่ากุญแจราคาไหน ก็สามารถล็อคประตูได้เหมือนกัน แต่อีกหนึ่งความแตกต่างที่เห็นได้ชัด คือ แม่กุญแจที่ไม่ได้มาตรฐาน มักผลิตจากวัสดุที่ถูกตัด งัดแงะ หรือสะเดาะได้ง่าย ทำให้เครื่องจักร หรือผลผลิตภายในโรงงานเสี่ยงต่อการถูกโจรกรรมได้ง่ายขึ้นเช่นกัน ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาอาคารเพิ่มขึ้นเมื่อถึงเวลาที่ต้องบำรุงรักษาโรงงาน ผู้ประกอบการต้องเสียค่าใช้จ่ายในการปรับปรุง และซ่อมแซมอุปกรณ์ต่าง ๆ ดังนั้น การเลือกกุญแจที่ไม่มีคุณภาพมาใช้งาน เจ้าของโรงงานต้องเสียเงินซื้อกุญแจเพิ่มในหลายจุด ซึ่งในกรณีที่มีกุญแจชำรุดหลายจุด อาจต้องสั่งซื้อกุญแจใหม่จนขาดทุนได้ในที่สุด ทั้งนี้ หากเจ้าของโรงงานกำลังมองหาแม่กุญแจคุณภาพดี ผลิตจากวัสดุที่มีความแข็งแรง ทนทานต่อการเลื่อย และเพิ่มความสะดวกในทุกการใช้งาน อย่าลืมนึกถึง Naradee เพราะเรามีผลิตภัณฑ์พร้อมดูแลโรงงานอุตสาหกรรมของคุณให้ปลอดภัย จากการโจรกรรมทุกรูปแบบแนะนำ 3 ประเภทของกุญแจ ที่เหมาะกับการใช้ในโรงงานสำหรับผู้ประกอบการ ที่สนใจอยากอัปเกรดความปลอดภัยให้กับโรงงาน แต่ยังไม่แน่ใจว่า ควรเลือกแม่กุญแจประเภทไหน ถึงจะช่วยยกระดับความปลอดภัยให้กับโรงงานได้เต็มประสิทธิภาพ ทนทานทุกการใช้งาน และหมดกังวลเรื่องการถูกโจรกรรม โดยผู้ที่ไม่ประสงค์ดี Naradee ได้รวบรวมคำตอบไว้ให้แล้ว ดังนี้แม่กุญแจทั่วไปสำหรับกุญแจคล้องทั่วไป ควรเลือกกุญแจที่ผลิตจากวัสดุคุณภาพดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็น โบรอนคาร์ไบด์ เหล็กกล้าชุบแข็ง และลามิเนตสตีลหุ้มไวนิล เป็นต้น ทำให้เป็นกุญแจที่ให้ความปลอดภัยสูงสุด เพราะมีความทนทานต่อสภาวะอากาศต่าง ๆ ได้ดี และต้านทานการตัด หรืองัดแงะได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานภายใน และภายนอกอาคารกุญแจระบบมาสเตอร์คีย์ (Master Key System)กุญแจระบบมาสเตอร์คีย์ (Master Key System) เป็นกุญแจที่สามารถเปิดชุดล็อคได้หลายประตู หรือแบ่งเป็นกลุ่มแยกตามพื้นที่ต่าง ๆ ภายในโรงงาน เพื่อความสะดวก และยกระดับความปลอดภัยในการเข้าถึงพื้นที่  ทั้งยังช่วยลดจำนวนการถือดอกกุญแจจำนวนมาก โดยที่ผู้ประกอบการ สามารถกำหนดบุคคลที่ถือดอกกุญแจ ให้เข้าเฉพาะประตู หรือพื้นที่ที่กำหนดได้ตามอิสระ โดยกุญแจระบบมาสเตอร์คีย์ มีทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่ กุญแจมาสเตอร์คีย์แบบคีย์อะไลก์: เป็นดอกกุญแจดอกเดียว แต่สามารถไขประตูได้ทุกบ้าน โดยที่ไม่ต้องพกกุญแจหลายดอกอีกต่อไปกุญแจมาสเตอร์คีย์แบบมีตัวคุม: เป็นกุญแจที่มีดอกกุญแจเฉพาะของตัวเอง และมีดอกกุญแจมาสเตอร์คีย์ ที่สามารถไขประตูได้ทั้งหมดแกรนด์มาสเตอร์คีย์: คือ ระบบกุญแจที่มีหลายกลุ่ม โดยแต่ละกลุ่มจะมีมาสเตอร์คีย์ และมีดอกกุญแจที่สามารถไขได้ทุกกลุ่มประตู กุญแจล็อคเพื่อความปลอดภัย (Safety Lockout Lockes)สำหรับกุญแจล็อคเพื่อความปลอดภัย (Safety Lockout Lockes) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ล็อคกับอุปกรณ์เชื่อมต่อพลังงานต่าง ๆ เช่น เบรกเกอร์ วาล์วหมุน สวิตช์ไฟ ปลั๊กไฟ ปั๊ม และอื่น ๆ เพื่อตัดแยกพลังงานก่อนซ่อมบำรุงเครื่องจักร ทำให้ผู้ปฏิบัติงานปลอดภัยจากแหล่งพลังงานที่เป็นอันตราย ทั้งยังช่วยป้องกันความเสียหายจากอุบัติเหตุ และมั่นใจได้ว่าอุปกรณ์ยังคงอยู่ในสภาพที่ปลอดภัย  ทั้งหมดนี้ก็คือ เกร็ดความรู้เกี่ยวกับมาตรฐานแม่กุญแจที่มีคุณภาพ และสอดคล้องกับการใช้งานภายในโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อดูแลรักษาทรัพย์สินให้ปลอดภัยอยู่เสมอ ทั้งนี้ หากใครสนใจอยากสั่งซื้อแม่กุญแจ เราขอแนะนำ Master Lock  เพราะ Master Lock เป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับในด้านคุณภาพ และความปลอดภัยระดับสากล จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะที่สุดสำหรับโรงงานต่าง ๆ ที่ต้องการอัปเกรดระดับความปลอดภัย ตั้งแต่ประตูรั้วสถานประกอบการ ไปจนถึงอุปกรณ์เครื่องจักร หากสนใจสามารถติดต่อสั่งซื้อได้ที่ Line: @naradeeWebsite: Naradee.comProduct Category: Master LockShopee: Naradee StoreLazada: Naradee StoreInbox: Naradee Store 
ความสำคัญของการฝึกอบรม กุญแจนิรภัย (LOTO) ให้กับพนักงาน

20 December 2024

ความสำคัญของการฝึกอบรม กุญแจนิรภัย (LOTO) ให้กับพนักงาน
ในปัจจุบัน ประเทศไทยมีการเกิดขึ้นของโรงงานอุตสาหกรรมเป็นจำนวนมาก ทั้งโรงงานที่มีการผลิตภายในประเทศ และโรงงานจากต่างประเทศ ที่เข้ามาลงทุนขยายฐานการผลิต ซึ่งสะท้อนถึงการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมที่มีบทบาทสำคัญ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ส่งผลให้คนยุคใหม่ อยากเติบโตในสายอาชีพโรงงานมากขึ้นอย่างไรก็ตาม ในสายอาชีพดังกล่าว สิ่งที่ต้องคำนึงในการปฏิบัติงาน คือความปลอดภัย ทำให้หลายโรงงานมีขั้นตอนทดสอบความรู้พื้นฐานการทำงาน รวมถึงการฝึกอบรมเกี่ยวกับอุปกรณ์เซฟตี้ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น กุญแจนิรภัย (LOTO), การกดปุ่ม Emergency หรือการเข้าใจถึงสัญลักษณ์ป้ายเตือนในโรงงาน ซึ่งล้วนเป็นส่วนสำคัญ ของการทำงานในระบบโรงงาน ดังนั้น เพื่อป้องกันอุบัติเหตุในช่วงระหว่างปฏิบัติงานที่คาดไม่ถึง ในบทความนี้ Naradee จะมาเผยความสำคัญว่า ทำไมโรงงานอุตสาหกรรม ควรจัดอบรมเกี่ยวกับการใช้งานอุปกรณ์ Lockout Tagout ถ้าพร้อมกันแล้ว ตามไปดูกันเหตุผลที่โรงงานอุตสาหกรรม ควรจัดอบรมเกี่ยวกับอุปกรณ์ LOTOการทำงานในโรงงาน โดยเฉพาะในสายงานการผลิต มักต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากปัจจัยต่าง ๆ มากมาย เช่น เครื่องจักร สารเคมี ความร้อน และไฟฟ้า ดังนั้น การจัดอบรมให้แก่พนักงาน ก่อนเข้าสู่กระบวนการทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในการทำงานอย่างปลอดภัย ลดความประมาท ที่อาจนำไปสู่อุบัติเหตุร้ายแรง ซึ่งนอกจากจะส่งผลต่อสุขภาพ และความปลอดภัยของพนักงานแล้ว ยังอาจนำไปสู่การเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการของโรงงานได้สร้างความรู้เรื่องระบบความปลอดภัยขั้นพื้นฐานนอกจากการลงทุนเกี่ยวกับเทคโนโลยีเครื่องจักรที่ทันสมัยแล้ว โรงงานควรลงทุนเกี่ยวกับอุปกรณ์เซฟตี้ รวมถึงการอบรมความปลอดภัยขั้นพื้นฐาน เช่น การแต่งกายขณะปฏิบัติงาน การใช้เครื่องมืออย่างถูกต้อง หรือการระงับเหตุเมื่อเกิดภัยอันตราย เป็นต้นสำหรับการวางแนวทางปูความรู้พื้นฐานในระบบความปลอดภัย ควรออกเป็นกฎระเบียบ ที่พนักงานในโรงงานต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หากใครฝ่าฝืนควรมีการเตือน เพื่อความปลอดภัยของตัวพนักงานเอง และสถานประกอบการการันตีความปลอดภัยของพนักงาน พระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ.2554 เป็นข้อกฎหมายที่ออกมา เพื่อบังคับให้เจ้าของสถานประกอบการมีหน้าที่จัดการ หรือดูแลสถานที่ทำงานให้มีสภาพปลอดภัย เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นต่อลูกจ้าง เช่น การแจกคู่มือปฏิบัติในงานหน้าที่ หรือการติดป้ายสัญลักษณ์เตือนจากอุปกรณ์ LOTO ให้พนักงานได้เห็นอย่างชัดเจน หากอุปกรณ์ไม่พร้อมใช้งานทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยว่าอุปกรณ์เซฟตี้แบบไหน ที่เหมาะสำหรับเครื่องจักร และอุปกรณ์ของคุณ สามารถติดต่อ หรือสอบถามได้ที่ Line: @naradeeแนวทางจัดอบรมอุปกรณ์ Lockout Tagout สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมการใช้งานอุปกรณ์ Lockout Tagout (LOTO) เป็นหนึ่งในมาตรการด้านความปลอดภัย ที่ช่วยลดอุบัติเหตุจากการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการใช้งานอุปกรณ์นี้ เป็นการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ ด้วยการล็อค และติดป้ายแจ้งเตือนอุปกรณ์ หรือระบบที่กำลังทำงาน เพื่อป้องกันไม่ให้มีผู้เข้าไปใช้งานขณะกำลังซ่อมบำรุง ช่วยให้บุคลากรปลอดภัย และลดความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยสูงสุด การจัดอบรมอุปกรณ์เกี่ยวกับอุปกรณ์เซฟตี้ เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการ และพนักงานในโรงงานอุตสาหกรรมควรต้องมีความเข้าใจ ดังนี้เข้าใจภัยอันตรายที่อาจเกิดขึ้นโรงงานอุตสาหกรรม มีหน้าที่ในการวิเคราะห์ถึงปัญหา ที่อาจนำไปสู่เกิดอุบัติเหตุในสถานที่ทำงาน โดยใช้หลัก “3 ป. ปลอดภัย” ได้แก่ การปลุกสำนึกอันตราย การประเมินความเสี่ยง และการปรับเปลี่ยนให้ปลอดภัย โดยขั้นตอนเหล่านี้มีวัตถุประสงค์ ช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุ และสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัย เพื่อส่งเสริมให้พนักงานทุกคนมีความรู้ และตระหนักในด้านความปลอดภัยมากขึ้นแนะนำอุปกรณ์ LOTO ให้พนักงานเข้าใจนอกจากนี้ โรงงานอุตสาหกรรมมักมีเครื่องจักร หรืออุปกรณ์ตามสายการผลิต เช่น อุปกรณ์ประกอบรถยนต์ อุปกรณ์สำหรับผลิตเฟอร์นิเจอร์ หรือเครื่องจักรผลิตน้ำตาล เป็นต้น ทำให้อุปกรณ์เซฟตี้ได้รับการออกแบบตามลักษณะของเครื่องจักร โดยอุปกรณ์ LOTO ขั้นพื้นฐาน มีดังนี้ Safety Padlock: กุญแจคล้องเซฟตี้Push button lock: ฝาครอบป้องกันปุ่มกด และสวิตช์Plug lockout: อุปกรณ์ล็อคสำหรับปลั๊กไฟฟ้า Valve lockout: อุปกรณ์ล็อควาล์ว โดยเลือกตามตำแหน่งที่ต้องการล็อค อย่างไรก็ตาม กุญแจนิรภัย (LOTO) ยังมีหลากหลายประเภท และการใช้งานที่ซับซ้อน ดังนั้น การแนะนำ หรืออบรมให้พนักงานเข้าใจวิธีการใช้งานอุปกรณ์ LOTO อย่างถูกต้อง จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจากการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด อธิบายขั้นตอนการใช้อุปกรณ์ LOTO อย่างละเอียดสำหรับขั้นตอนการใช้งานอุปกรณ์ LOTO อย่างละเอียด มีดังนี้ เตรียมการปิดระบบ: ก่อนเริ่มการซ่อมบำรุงเครื่องจักร ควรทำการตัดพลังงานทุกชนิดที่จ่ายให้กับเครื่องจักร เช่น ไฟฟ้า แรงดันน้ำ หรือแก๊ส เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องจักรสามารถทำงานได้ในระหว่างที่มีการซ่อมบำรุงอุปกรณ์ระบบล็อค หรือป้ายเตือน: ให้นำอุปกรณ์ล็อค และป้ายเตือนในการล็อคแหล่งจ่ายพลังงานที่ตัดแล้ว โดยระบุรายละเอียดการซ่อมบำรุง และชื่อผู้รับผิดชอบ เพื่อให้พนักงานทุกคนรับทราบว่ามีการซ่อมบำรุงเกิดขึ้น การตรวจสอบ: หลังจากติดตั้ง LOTO เสร็จสิ้น ให้ทดสอบระบบอีกครั้งเพื่อยืนยันว่าเครื่องจักรไม่สามารถทำงานได้จริง ซึ่งจะช่วยให้มั่นใจในความปลอดภัย ก่อนเริ่มงานซ่อมบำรุง ถอดอุปกรณ์ LOTO: หลังซ่อมบำรุงเสร็จ ให้ทำการถอดอุปกรณ์ล็อค และป้ายเตือนออกโดยผู้รับผิดชอบเท่านั้น จากนั้นเปิดการใช้งานเครื่องจักร เพื่อทดสอบว่าเครื่องจักรกลับมาทำงานได้ปกติหรือไม่ประโยชน์จากการจัดอบรมด้านอุปกรณ์เซฟตี้ ให้กับพนักงานในทุกครั้งที่มีการโยกย้ายสายงาน หรือตำแหน่งหน้าที่ในโรงงานอุตสาหกรรม ทางโรงงานจะทำการอบรมด้านอุปกรณ์เซฟตี้ให้กับพนักงาน แม้ว่าพนักงานคนนั้นจะมีความรู้ และความเข้าใจขั้นพื้นฐานเกี่ยวกับความปลอดภัยแล้วก็ตาม ทั้งนี้ การอบรมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ เพื่อทบทวนความจำ และสร้างความตระหนักในการปฏิบัติงานให้ปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการละเลย หรือความประมาทในขณะปฏิบัติหน้าที่ โดยการลงทุนจัดอบรมด้านอุปกรณ์เซฟตี้ให้กับพนักงานในโรงงานอุตสาหกรรม มีประโยชน์หลายข้อ ดังนี้ลดอัตราการบาดเจ็บ และเสียชีวิตเป้าหมายที่สำคัญที่สุดในการจัดอบรมด้านอุปกรณ์เซฟตี้ คือ การลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุในโรงงาน เนื่องจาก ตามกฎหมายแล้ว หากพนักงานได้รับความบาดเจ็บในระหว่างทำงาน เจ้าของกิจการมีหน้าที่ดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมด อีกทั้งยังส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของโรงงาน จนนำไปสู่การปิดกิจการได้คุณภาพชีวิตของพนักงานดีขึ้นเมื่อพนักงานรู้สึกมั่นใจในการใช้อุปกรณ์ และเข้าใจขั้นตอนการทำงานอย่างถูกต้อง จะช่วยให้การทำงานดำเนินไปได้อย่างราบรื่น โดยไม่ต้องกังวลถึงการทำงานโรงงาน ดังนั้น การมีสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัย ไม่เพียงช่วยลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมให้พนักงานมีความสุข และรู้สึกมั่นคงในระยะยาวลดอัตราการลาออก หรือย้ายงานโรงงานอุตสาหกรรมมักจัดสวัสดิการต่าง ๆ เพื่อดึงดูดความสนใจให้ผู้คนเข้ามาทำงาน และพร้อมอยู่ในสายงานอย่างยาวนาน แต่สิ่งสำคัญอีกหนึ่งสิ่ง ที่ช่วยสร้างความไว้วางใจให้กับผู้สมัครงาน และพนักงานในโรงงาน คือ การยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการทำงานให้สูงขึ้น โดยการดูแลด้านความปลอดภัยที่เป็นไปตามมาตรฐาน จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร สุดท้ายนี้ หากพบจุดบกพร่อง หรือความเสียหายของเครื่องจักร หรือเครื่องมือในโรงงานอุตสาหกรรม ควรรีบรายงานทำการซ่อมแซมโดยด่วน เพื่อป้องกันไม่ให้เพื่อนร่วมงานได้รับอันตรายจากการใช้งานอุปกรณ์ที่ชำรุด อีกทั้งก่อนเริ่มทำการซ่อมแซม จำเป็นต้องนำอุปกรณ์เซฟตี้ หรือกุญแจนิรภัย (LOTO) มาติดตั้ง เพื่อเป็นสัญลักษณ์แจ้งเตือนถึงการซ่อมบำรุงเครื่องจักร ถ้าสนใจสามารถติดต่อสั่งซื้อได้ที่ Line: @naradeeWebsite: Naradee.comProduct Category: Master LockInbox: Naradee Store 

BECOME A MEMBER

Icon Phone Icon Mail Icon Line
Add to Cart